ประจำเดือน พฤศจิกายน 2544
 


สุดสัปดาห์ปลายเดือนพฤศจิกายน ในเทศกาล Thanksgiving แน่นอนว่าแชมป์ยังคงอยู่ในกำมือของ Harry Potter and the Sorcerer's Stone แบบไม่มีพลิกโผ ตามด้วย Monsters, Inc. ที่ยังไปได้สวยตามคาด และ Spy Game ที่ตามมาติดๆ ส่วนหนังตลกสองเรื่องคือ Black Knight และ Out Cold ก็พอเอาตัวรอดได้

สัปดาห์ที่สองของ Harry Potter and the Sorcerer's Stone ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก ไม่แพ้สุดสัปดาห์แรก เนื่องจากอยู่ในเทศกาลที่เหมาะกับการทำเงินของหนังเรื่องนี้อย่างยิ่ง แน่นอนว่า พ่อมดน้อยยังคงเดินหน้ากวาดเงินของมักเกิ้ลทั้งหลายอย่างสบายใจเฉิบ โดยทำเงินไปได้อีก $57.5M จากสุดสัปดาห์ 3 วัน (ศุกร์-อาทิตย์) แต่เมื่อคิดรวมย้อนไปตั้งแต่วันพุธ ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาล รวม 5 วัน หนังกวาดไปได้ถึง $82.4M นับเป็นสถิติใหม่ของหนังในช่วง Thanksgiving ทั้งประเภท 3 วันและ 5 วัน ซึ่งสถิติเก่าทำไว้โดย Toy Story 2 เมื่อปี 1999 ทำได้ $57.4M และ $80.1M ตามลำดับ (แซงไปแบบฉิวเฉียด เพราะนั่นคือสัปดาห์แรกของ Toy Story 2)

ตัวเลขเปอร์เซนต์ของรายได้ที่ลดลงของ Harry Potter คือ 36% นับว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ผิดคาด ทำให้รายได้รวมของพ่อมดน้อยไปอยู่ที่ $187M กลายเป็นสถิติใหม่อีกรายการ คือหนังทำเงินสูงสุดจากการฉาย 10 วันแรก แซงหน้า Star Wars : Episode I ที่ทำได้เพียง $153.7M นอกจากนี้ ตัวเลข $57.5M ของสุดสัปดาห์ที่สอง ยังเป็นสถิติใหม่ของหนังทำรายได้สัปดาห์ที่สองได้สูงสุด โค่นแชมป์เก่า The Grinch ที่ทำไว้ $52.1M ในสุดสัปดาห์เดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้วนี่เอง

จากตัวเลขรายได้ใน 2 สัปดาห์แรก พอจะประมาณการได้ว่า Harry Potter จะผ่านหลัก $200M ระหว่างสัปดาห์นี้ และจะทะลุผ่านหลัก $300M ได้ในราวกลางเดือนธันวาคมอย่างสบายๆ ส่วนเป้าหมายที่น่าจับตาดูคือ $400M นั้น ยังเป็นที่กังขาอยู่ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดของปี 2001 ในไม่ช้านี้ สัปดาห์หน้าก็น่าจะยังเป็นของพ่อมดน้อยคนนี้ และหนังที่จะโค่นให้พ่อมดน้อยลงจากตำแหน่งแชมป์ประจำสัปดาห์ คาดว่าคงจะเป็น Ocean's Eleven ที่จะเข้าฉาย 7 ธันวาคม (ซึ่งก็จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. อีกนั่นแหละ)

หนังแอนิเมชั่นน่ารักแห่งปี "บริษัท รับจ้างหลอน (ไม่) จำกัด" Monsters, Inc. ของ Disney / Pixar ยังไปได้สวยเช่นเคย สัปดาห์นี้ทำไปได้อีก $24.1M จากสุดสัปดาห์ 3 วัน หลังจากทีไ่ด้โรงเพิ่มอีก 188 โรง ทำให้กลายเป็นหนังเรื่องเดียวของ top-10 สัปดาห์นี้ ที่ทำรายได้เพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้นมาอีก 6% แต่ยังอยู่อันดับ 2 ที่เดิม รวมรายได้จากที่ฉายมา 24 วัน หรือ 4 สัปดาห์ กวาด"เสียงกรี๊ด"ไปแล้ว $192.2M นำหน้าหนังแอนิเมชั่นยอดฮิต Shrek และ Toy Story 2 ที่ทำได้ $176.1M และ $156.4M ในช่วงเวลาจำนวนวันเท่ากันตามลำดับ คาดว่าจะทะลุผ่านหลัก $200M ไปได้ในช่วงปลายสัปดาห์นี้แน่นอน

Spy Game หนังทุนสร้าง $90M จัดจำหน่ายโดย Universal เรื่องของอดีตสายลับที่ถูกเรียกตัวกลับมารับงาน นำแสดงโดย Robert Redford, Brad Pitt, Catherine McCormac กำกับโดย Tony Scott (Enemy of the State, Crimson Tide, Top Gun) แน่นอนว่าได้แฟนหนังกลุ่มผู้ใหญ่ไป เปิดตัวสัปดาห์แรก 3 วัน (ศุกร์-อาทิตย์) ทำรายได้ตามมาเป็นอันดับ 3 ทำรายได้ $21.7M จากจำนวน 2,770 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $7,830 สูงมากทีเดียว ซึ่งเป็นรายได้หนังเปิดตัวได้สูงสุดของ Robert Redford ทำลายสถิติเก่า $18.4M ที่ Indecent Proposal ทำไว้เมื่อปี 1993 (ค่าตั๋วในยุคนั้นจะถูกกว่ามาก และหนังเปิดตัวในจำนวนโรงน้อยกว่าถึง 1,076 โรง ซึ่งก็ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อโรงได้ไปถึง $10,855) นอกจากนี้ รายได้ $21.7M ของ Spy Game ยังนับว่าเป็นหนังเปิดตัวรายได้สูงสุด อันดับสองของ Brad Pitt ตามหลัง Interview with the Vampire ที่ทำไว้ $36.4M เมื่อปี 1994 หากนับรวมรายได้จากวันพุธ ซึ่งเป็นวันแรกที่เข้าฉายก็จะเป็น $30.6M หนังเรื่องนี้มีโปรแกรมเข้าฉายในไทย 11 มกราคมปีหน้า

อันดับ 4 Black Knight หนังตลกเรื่องใหม่ของ Martin Lawrence ทุนสร้างประมาณ $30-40M ติดเรต PG-13 จัดจำหน่ายโดย Fox เรื่องราวของหนุ่มผิวหมึกช่างพูด ที่ย้อนกาลเวลาไปยุคกลาง และได้ร่วมมือกับอัศวินแห่งยุคนั้น สู้รบกับราชาผู้โหดร้าย เปิดตัวสัปดาห์แรก ทำรายได้สุดสัปดาห์ 3 วัน (ศุกร์-อาทิตย์) ได้ไป $11.1M จากจำนวนโรง 2,571 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $4,319 ไม่ค่อยดีนัก ปีนี้อาจจะเป็นปีอับโชคของ Martin Lawrence ก็คงจะไม่ผิด หลังจากที่ล้มคะมำกับรายได้ของ What's the Worst That Could Happen? ที่เปิดตัวด้วยรายได้เพียง $13M และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เขาต้องผิดหวัง รายได้รวม 5 วันจากวันพุธ ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดตัว หนังทำรายได้ไปแล้ว $15.4M

Shallow Hal หนังตลกของสองพี่น้อง Farrelly นำแสดงโดย Gwenyth Paltrow และ Jack Black เรื่องราวของความรักกับความอ้วน สัปดาห์นี้หล่นจากอันดับ 3 มาอยู่ 5 ได้ไปอีก $8.5M (3 วันสุดสัปดาห์) ลดลง 30% จากสัปดาห์ที่แล้ว รวมรายได้จากที่ฉายมา 17 วันหรือ 3 สัปดาห์ทำได้ $55M กำหนดฉายในไทยอยู่ราว 1 มีนาคมปีหน้า

อันดับ 6 เป็นของ Out Cold หนังเข้าใหม่แนวตลกวัยรุ่น ติดเรต PG-13 เกี่ยวกับสกีน้ำแข็ง จาก Buena Vista ที่ทำเงินออกมาไม่ค่อยได้ดั่งใจนัก ทำเงินจากสุดสัปดาห์ 3 วัน $4.5M จากจำนวนโรง 2,011 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมาได้ $2,253 ไม่ค่อยดีเลย หนังแสดงโดย Jason London, Lee Majors, Willie Garson, Zach Galifianakis, David Koechner ไม่ค่อยคุ้นชื่อทั้งนั้น รวมรายได้ 5 วัน คิดจากวันพุธ ทำไปได้ $6.7M มีโปรแรกมเข้าฉายในไทย เดือนมิถุนายนปีหน้า

หนังระทึกขวัญเรต PG-13 ทุนสร้าง $53M Domestic Disturbance นำแสดงโดย John Travolta, Vince Vaughn จัดจำหน่ายโดย Paramount สัปดาห์นี้ตกจากอันดับ 4 มาอยู่อันดับ 7 ทำรายได้ไป $4M ลดลง 26% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว รวมรายได้จาก 4 สัปดาห์ทำได้ $39.8M ส่วนหนังดราม่าอาชญากรรม Heist นำแสดงโดย Gene Hackman และ Danny DeVito จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. ตกจากอันดับ 5 มาอยู่ 8 ได้ไปอีก $3.1M ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้ว 34% รายได้รวม $20M จาก 3 สัปดาห์

หนังดราม่าของ Kevin Kline เรื่อง Life as a House จัดจำหน่ายโดย New Line เกาะแน่นอยู่อันดับ 9 ที่เดิม รายได้ลดลงไปเพียง 20% ทำได้ $2.12M รายได้รวมไปอยู่ที่ $12.2M เข้าไปแล้ว ปิดท้าย top-10 ด้วย The One หนัง sci-fi แอ็คชั่นเรต PG-13 นำแสดงโดย Jet Li รายได้หล่นลงถึง 50% ทำได้อีก $2.08M ฉายมา 4 สัปดาห์ทำเงินให้ Sony ไปแล้ว $41.9M มีโปรแกรมฉายในไทย ต้อนรับตรุษจีน 8 กุมภาพันธ์ปีหน้า

ได้ลงจอเสียที Sidewalks of New York หนังใหม่แนวรักเบาๆ กำกับโดย Ed Burns จัดจำหน่ายโดย Paramount Classics ที่ต้องเจอโรคเลื่อนเพราะการก่อวินาศกรรม 11 กันยายนที่ผ่านมา เข้าฉายในจำนวน 99 โรง ทำเงินไป $545,132 จาก 3 วันสุดสัปดาห์ หรือ $678,286 จาก 5 วันตั้งแต่วันพุธที่เริ่มเปิดฉาย เฉลี่ยต่อโรงสำหรับสุดสัปดาห์แรกนี้ออกมา $5,506 สูงไม่เบาทีเดียว สุดสัปดาห์หน้าจะได้โรงเพิ่มเป็นประมาณ 150-200

หนังตลกติดเรต R ภาษาฝรั่งเศสในฟิล์มเรื่อง Amelie จัดจำหน่ายโดย Miramax ยังคงทำเงินต่อไปแบบเงียบๆ ในจำนวนโรงน้อยนิดเพียง 217 โรง (เพิ่มจาก 163 โรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว) ทำรายได้สัปดาห์นี้ไปอีก $1.8M เฉลี่ยต่อโรงออกมาดีมากถึง $8,348 ต่อโรง รวมรายได้จากที่ฉายมา 4 สัปดาห์ กวาดไปแบบนิ่มๆ $7.8M ส่วนหนังตลกร้าย Novocaine จัดจำหน่ายโดย Artisan แสดงโดย Steve Martin, Helena Bonham Carter, Laura Dern ได้โรงเพิ่มอีก 15 โรง เป็น 120 โรง ทำรายได้ไป $340,212 ลดลง 19% จากสัปดาห์ที่แล้ว เฉลี่ยต่อโรงออกมา $2,835 ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รวม 2 สัปดาห์ทำรายได้รวมไปเกือบล้านแล้ว

หนังสามเรื่องที่โดนเบียดหลุด top-10 ไปก็คือ K-Pax หนังดราม่าเกี่ยวกับเอเลี่ยน ทุนสร้าง $48M รายได้ร่วงลง 45% ทำได้อีก $1.7M รวมรายได้เข้า Universal แล้ว $48.2M จากที่ฉายมา 5 สัปดาห์ คาดว่าคงไปหยุดแถวๆ $50-52M ; หนังตลกเรื่อง The Wash แสดงโดยสองศิลปินแนว Hip hop - Dr. Dre และ Snoop Dogg ทุนสร้าง $4M จัดจำหน่ายโดย Lions Gate สัปดาห์ที่สองนี้ทำได้ $1.6M ลดลง 43% จากสัปดาห์ที่แล้ว รวมฉายมา 12 วันทำได้ $6.5M ส่วนหนังสยองขวัญ Thirteen Ghosts ทุนสร้างไม่ถึง $20M จาก Warner Bros. สัปดาห์นี้เก็บไปได้อีก $1.1M ลดลงเกือบครึ่งจากสัปดาห์ที่แล้ว รายได้รวมขณะนี้ $39.6M จาก 5 สัปดาห์ มีกำหนดฉายในไทย 18 มกราคมปีหน้า

สัปดาห์หน้าพบกับ Behind Enemy Lines หนังสงครามเกี่ยวกับการช่วยเหลือนักบินที่เครื่องบินถูกยิงตกหลังแนวรบ และอยู่ในเขตแดนของข้าศึก แสดงนำโดย Gene Hackman, Owen Wilson


 

ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินวันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน 2544

# Title Nov 23 - 25 Nov 16 - 18 % Chg. Theaters  Weeks AVG Cumulative Dist.
                   
1 Harry Potter and the Sorcerer's Stone $ 57,487,755 $ 90,294,621 -36.3 3,672  2 $ 15,656  $ 186,978,513 Warner Bros. 
2 Monsters, Inc. 24,055,001 22,716,685 5.9 3,649  4 6,592  192,229,825 Buena Vista 
3 Spy Game 21,689,125     2,770  1 7,830  30,566,960 Universal
4 Black Knight 11,102,948     2,571  1 4,319  15,409,892 Fox
5 Shallow Hal 8,516,424 12,106,586 -29.7 2,643  3 3,222  54,998,829 Fox
6 Out Cold 4,531,665     2,011  1 2,253  6,700,687 Buena Vista 
7 Domestic Disturbance 4,008,337 5,377,031 -25.5 2,386  4 1,680  39,801,239 Paramount
8 Heist 3,113,033 4,682,249 -33.5 1,711  3 1,819  20,025,070 Warner Bros. 
9 Life as a House 2,121,159 2,646,422 -19.8 1,119  5 1,896  12,220,980 New Line 
10 The One 2,075,363 4,105,741 -49.5 1,727  4 1,202  41,880,185 Sony
                   
11 Amelie 1,811,595 1,323,345 36.9 217  4 8,348  7,799,075 Miramax
12 K-Pax 1,727,020 3,138,750 -45.0 1,256  5 1,375  48,237,565 Universal
13 The Wash 1,649,089 2,875,067 -42.6 749  2 2,202  6,505,786 Lions Gate 
14 Thirteen Ghosts 1,077,838 2,132,473 -49.5 905  5 1,191  39,628,512 Warner Bros. 
15 The Man Who Wasn't There 954,389  893,669  6.8 246  3 3,880  4,593,619 USA Films 
16 Sidewalks of New York 545,132      99  1 5,506  678,286  Par. Class. 
17 Bandits 506,362  768,683  -34.1 602  7 841  40,677,084 MGM
18 Serendipity 479,686  875,313  -45.2 506  7 948  48,051,398 Miramax
19 Training Day 430,014  908,870  -52.7 458  8 939  74,950,886 Warner Bros. 
20 Novocaine 340,212  418,098  -18.6 120  2 2,835  945,325  Artisan

Home